หลังจากความสำเร็จในปี 2551 จาก “สะบายดี หลวงพระบาง” ผู้กำกับศักดิ์ชาย ดีนานส่งภาคต่อ “สะบายดี 2 ไม่มีคำตอบจากปากเซ” ออกมาอีกในปี 2553 ที่แม้ไม่ได้ประสบความสำเร็จเท่าภาคแรก แต่ก็มากพอที่จะส่ง “สะบายดี วันวิวาห์” ในปีนี้ครับ และตัวอย่างหนังก็ปล่อยออกมาให้ชมแล้ว

หนังได้แรงบันดาลใจจากความประทับใจส่วนตัวของคุณผู้กำกับเอง สมัยที่เคยไปทำงานในลาวครับ และก็ต่อยอดเรื่องราวออกมาได้ถึงสามภาค ซึ่งใน “สะบายดี วันวิวาห์” ได้บอย- ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ มารับบทนำร่วมกับนางเอกสาว คำลี่ พิลาวง สาวลาวคนสวยที่รับบทนำตั้งแต่ภาคแรก และยังมีธนิยา อำมฤตโชติ จาก ปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่น และรถไฟฟ้ามาหานะเธอ มาร่วมแสดงในภาคนี้ด้วย

ผู้กำกับศักดิ์ชาย เล่าถึงการทำงานว่า “สำหรับภาคนี้ เราพูดถึงเรื่องของหนุ่มไทยที่ไปทำงานในลาวแล้วไปพบหญิงสาวคนหนึ่งจนรู้สึกผูกพันและสัญญาว่าจะกลับมาหาเธออีกครั้ง แต่แล้วการที่เขากลับมามาเธอในอีก 6 เดือนต่อมาแล้วเกิดเรื่องราวโกลาหลจนทำให้เขาและเธอต้องแต่งงานกัน โดยที่ทั้งคู่ไม่แน่ในการแต่งงานครั้งนี้ว่า..เกิดขึ้นเพราะสงสาร หรือเพราะความรักกันแน่”

ขณะที่หนังทั้งสามภาคเปลี่ยนพระเอกตลอด แต่ทำไมผู้กำกับยังคงเลือกใช้คำลี่มารับบทนำหญิงเช่นเดิม ผู้กำกับศักดิ์ชายเล่าว่า “เพราะผมกำลังเล่าเรื่องราวของประเทศลาว และผมก็เลือกคำลี่ให้เป็นเสมือนตัวแทนของสาวลาวที่มีความเรียบง่าย อบอุ่น แต่มีความจริงใจ บุคลิกในทั้งสามภาคจะออกมาแนวเดียวกันอาจจะแตกต่างกันไป อย่างในสะบายดีหลวงพะบาง เธอเล่นเป็น น้อย ไกด์สาวมือใหม่ ออกแนวโก๊ะๆ นิดๆ ในสะบายดี 2 ก็เป็นบทของสาวลาวที่เรียนจบจากต่างประเทศ เก่ง มีความมั่นใจในตัวเองสูง และในภาคนี้ ก็จะมารับบท “คำ” สาวลาวเรียบๆ ซื่อๆ มีชีวิตอยู่ในเมืองเล็ก สังคมชุมชนเล็กๆ อย่างเมืองปากเซ ซึ่งมีความแตกต่างกับเมืองไทยมากมาย..แล้วหนุ่มไทย ที่ต้องไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น..จะเป็นไปได้ไหมที่เขาจะทิ้งสังคม ทิ้งสีสันของเมืองหลวงใหญ่ๆ อย่างกรุงเทพฯ มันเลยมีความน่าสนใจตรงนี้เองครับ”

ผู้กำกับเสริมเกี่ยวกับหนังว่า “เรื่องนี้เป็นเรื่องของสังคมเล็กๆ แห่งหนึ่ง เหมือนกับว่าภาคแรก เรามองถึงประเทศลาวทั้งประเทศ ภาคสองเราโฟกัสลงมาภาคหรือเขตคือมองเล็กลง และในภาคสุดท้ายนี้ เราพูดเฉพาะสังคมของเขา ความเป็นจริง สี่งที่ดำเนินอยู่รอบๆ ตัว ซึ่งเล็กลงมา กว่า 2 ภาคแรก เห็นความสัมพันธ์ วัฒนธรรมความเป็นอยู่ การกินดอง (การแต่งงาน) ของคนลาวอย่างใกล้ชิด ถือเป็นบทส่งท้ายตำนานภาพยนตร์สะบายดี ที่ผมทำมาด้วยครับ”

สะบายดี วันวิวาห์ ฉาย 2 มิถุนายนนี้ครับ