ลัดดาแลนด์: ความเห็นหลังจากชม

ลัดดาแลนด์สำหรับผมแล้วเป็นหนังกลางๆ ครับ เป็นหนังผีดูเอาสยอง เข้าไปดูฉากผีหลอก รู้สึกกลัวไปตลอด แต่พอจบก็จบกัน ไม่มีอะไรติดกลับมาด้วย หรือตามมาหลอนต่อที่บ้าน (เหมือนเวลาเราไปดูหนังบู๊เอามันส์ ตอนดูก็มันส์ดี แต่จบก็จบกันไป)อาจเพราะผู้กำกับโสภณ ศักดาพิศิษฏ์ จัดหนักตลอดเวลาจนไม่รู้สึกว่ามีฉากหลอกไหนที่พีคไปกว่ากัน ยิ่งช่วงครึ่งหลังนี่หลอกจนผมเหนื่อยเลย ทำให้ไม่มีฉากจำนักเพราะมันเท่ากันไปตลอด หลอกกันหนักหน่วง ทั้งใส่เสียงดนตรีดังบ้าง ชวนผวาบ้าง สร้างบรรยากาศให้ตกใจ และเหมือนคิดว่ามีวิธีไหนที่จะทำให้คนดูกลัวหรือตกใจได้ก็จัดใส่เข้าไปหมดเลย โดยไม่ค่อยคำนึงถึงจังหวะของเนื้อเรื่อง หรือเส้นกราฟการเล่าเรื่องโดยองค์รวมของหนังเท่าไหร่ ใครที่อยากไปให้ผีหลอกในโรงหนัง คงจะสะใจแหละครับ เพราะผีออกมาหลอกได้น่ากลัวแทบทั้งเรื่อง แต่มันเหมือนแค่ทำให้รู้สึกกลัวเสียเป็นส่วนใหญ่เท่านั้นจริงๆ

ซึ่งกรณีนี้ ขอยกตัวอย่างเปรียบเทียบกับหนังผีบางเรื่องที่จะมีการเน้นน้ำหนักให้ฉากหนึ่งฉากใดเป็นพิเศษ ทำให้เกิดภาพจำหรือติดตาออกมาเมื่อดูหนังจบ เช่น The Sixth Sense ที่ให้น้ำหนักเรื่องไอเย็นเวลาที่ผีจะออกมาเป็นพิเศษ ทำให้คนดูเริ่มรู้สึกกลัวเมื่อตัวละครพูดออกมาแล้วมีไอเย็น และทำให้พอเราเจออากาศเย็นแล้วมีไอออกจากปากก็จะทำให้นึกถึงหนังเรื่องนี้ หรืออย่าง”ชัตเตอร์“ที่เน้นฉากปวดคอเป็นพิเศษ ทำให้เรากลัวจะเป็นเหมือนตัวละครเมื่อเราเกิดรู้สึกปวดเมื่อยคอ

แต่”ลัดดาแลนด์”มีทั้งเสียงกระดิ่ง ตาวิเศษ ตู้เย็น เสียงจักรเย็บผ้า ภาพจากกล้องในน้ำหนักที่เท่าๆ กัน เราจึงได้แต่รู้สึกกลัว แต่ไม่เกิดภาพจำออกมา

ผมเข้าใจเอาเองว่าสิ่งที่หนังต้องการจะเล่าเรื่องก็คือ เป็นเรื่องราวของหัวหน้าครอบครัวที่พยายามจะหาเลี้ยงลูกเมีย พยายามสร้างความสุขให้ทุกอย่าง และรวมถึงการมีบ้านในฝันให้ แต่ทุกอย่างก็มีอุปสรรคตลอดเหมือนครอบครัวทั่วไปที่ต้องเจอพิษเศรษฐกิจ และยังต้องเจอกับความกดดันจากการต้องพิสูจน์ตัวเองว่าเขาสามารถเป็นผู้นำครอบครัว และเลี้ยงดูลูกเมียได้ ส่วนผีนั้นเป็นแค่ส่วนประกอบหนึ่งของปัญหา หรือจะว่าไปผีอาจเป็นอุปมาอุปมัยถึงปัญหาของการเป็นหัวหน้าครอบครัวที่มารุมเร้าตัวพระเอก ผมสังเหตเห็นว่าตัวละครหลักๆ จะโดนผีหลอกก็ต่อเมื่อเข้ากำลังประสบปัญหาหรือมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันครับ

และเมื่อพูดถึง “ผี” แล้ว ผมยังไม่แน่ใจว่าผมจะชอบหรือไม่ชอบดีที่หนังทำเหมือนผีเป็นคล้ายปัญหาปกติที่เราอาจเจอได้ตามปกติวิสัย เหมือนปัญหาขโมยขึ้นบ้าน เหมือนหมู่บ้านจัดสรรค์ที่ขโมยชุม หรือโจรชุม ชาวบ้านก็เลยไม่อยู่กัน เพียงแต่ในที่นี้คือผีชุม เวลาที่ตัวละครพูดถึงผีที่ออกมาหลอกก็พูดกันเหมือนผีเป็นโจรหรือขโมยที่มาปล้นหรือมายกเค้า หรือมีน้ำหนักเหมือนคำพูดที่แม่ยายของพระเอกพูดว่า “แกปล่อยให้หลานของฉันต้องนั่งรถสองแถวได้ยังไง” มันเหมือนกับว่าการโดนผีหลอกเป็นเรื่องปกติมาก การที่คุณไปอยู่หมู่บ้านจัดสรรที่มีคนตายโหง คุณต้องโดนผีหลอกเป็นเรื่องปกติซึ่งถ้าคุณทนไม่ได้ก็ต้องย้ายหนี ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วทุกหมู่บ้านก็มีคนตายและก็ไม่ได้มีผีหลอกจนหนีกันทุกหมู่บ้าน แต่ผีก็อาจเป็นอุปมาอุปมัยถึงปัญหาชีวิตครอบครัวตามปกติแบบที่ผมบอกตอนต้นก็ได้ การโดนผีหลอกจนดูเป็นเรื่องปกติในหนังเรื่องนี้

คุณก้อง สหรัถฯ ทำหน้าที่ตัวละครนี้ได้ค่อนข้างดี และดูมีเลือดมีเนื้อมากๆ มีการแสดงที่เป็นธรรมชาติมากจนรู้สึกว่าเป็นตัวละครนี้จริงๆ ไม่ใช่คุณก้องที่เราเคยเห็นจากบนเวทีคอนเสิร์ต บทของคุณก้องเองก็อาจจะดีมากในระดับหนึ่งที่ทำให้คนดูหนังซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวอินได้ เพราะฉากท้ายเรื่องนั่นทำให้เพื่อนของผมที่มีครอบครัวถึงกับสะเทือนใจมากๆ แต่ถ้าวัดจากความรู้สึกของตัวผมเองแล้ว ผมไม่อิน ผมรู้สึกถึงแต่ความน่ากลัวที่ถูกจัดมาให้หนักหน่วงตลอดเวลาจนแทบกลบความเป็นดราม่าของหนัง อาจเป็นที่การเล่าเรื่องของหนังเองที่ทำให้ผมอินไม่ได้ หรืออาจเป็นที่ตัวผมเองซึ่งไม่มีประสบการณ์ร่วมกับตัวละครก็ได้

และอีกอย่างที่หนังน่าจะดีกว่านี้ได้ก็คือการสร้างความผิดคาดให้บ้าง หนังมีการ foreshadow อยู่เรื่อยๆ ว่าจะมีเหตุการณ์อะไรตามมา หรือมันจะต้องลงเอยในแนวไหน มันทำให้คนที่ดูหนังแนวนี้มามากระดับหนึ่งเดาทางของหนังได้ถูก และผมเดาได้ใกล้เคียงตลอดเลย แต่แม้จะเดาเรื่องออกก็ไม่ทำให้รู้สึกเบื่อนะครับ ผู้กำกับหรือตัวบทหนังเองทำให้เราลุ้นตาม หรือเอาใจช่วยตัวละครได้ เพราะสร้างความผูกพันให้ผมมีต่อตัวละครแล้วจนเกิดความเห็นใจและอยากเอาใจช่วย อยากให้สิ่งที่เดาได้นั้นผิดคาด แต่สุดท้ายมันก็ไม่ผิดคาด อารมณ์ช่วงท้ายเลยแบนๆ เป็นเส้นตรงระนาบเดียวครับ

คิดว่าคงจะเขียนรีวิวยาวๆ ทีหลังครับ (หวังว่าจะมีเวลา) ตอนนี้เอาความเห็นหลังจากชมไปก่อน และผมคงให้คะแนนหนังที่ 7/10 ครับ เพื่อนๆ ที่ชมมาแล้วคิดยังไง รู้สึกยังไง และให้คะแนนเท่าไหร่ครับถ้าเต็ม 10 จัดมาเลย

12 comments

  1. ผมเอง หลังจากดูจบปุ๊บ ผมให้ 10/10 เลย ชอบที่ทั้งหลอกได้สุดยอดมาก โดนหลอกจนเหนื่อยเลย และดราม่ามาก ไม่รู้ว่าผมมีอารมณ์ยังไงหรอกนะ ทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้เป็นพ่อคน เป็นแต่ลูกที่ไม่ค่อยได้รับความอบอุ่นเท่าไหร่อะมั้ง แล้วอินจนน้ำตาไหลตาม เพราะรู้ว่าตัวละครกำลังจะพูดอะไร

    แต่พอนานๆ ไป คะแนนก็หล่นบ้างและนิดหน่อยเท่านั้น ผมให้ที่ 9/10 ละกันครับ ยังไงหนังก็ให้สองอย่างข้างบนกับผมได้ครบ และเป็นธรรมดาที่หนังผี มักไม่สนที่มาที่ไปหรือแรงจูงใจที่ทำไมผีต้องหลอกคนมากนัก ยังไง รวมๆ มันก็ยังดูดีอยู่ครับ เหะๆ

  2. ลัดดาแลนด์ ผมให้ 7/10 เหมือนกันครับ.
    หนังเริ่มด้วยต้อนได้ใสสว่างมากๆ จนผ่านไป
    ท้ายเรื่องก็จบแบบมืดมนสุดๆ ถือว่า OK แล้วล่ะ
    เป็นหนังผีที่ดีในรอบหลายปีเลยล่ะครับ.

  3. ให้พี่แกไปทำดราม่าเลยดีฟ่า -.- ผีเป็นแค่ตัวประกอบจริง ถ้ามองภาพรวมผมให้สูงกว่านี้น่ะ แต่หน้าหนังว่าเป็นหนังผี ขายผี เเต่ผมไม่ตกใจผีเลยผมตกใจตอนหมาเห่า กับแมววิ่งมากกว่า(วัดเสียงกรี๊ดจากในโรงก็เงียบสงิด) ผมให้ 6.5 ครับ ไม่รู้ดิน่าจะต่อยอดตอนยิงป็อกให้เป็นเรียงจริง บีบอารมณ์กว่าอีกผมว่า

  4. โดยส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบหนังผีประเภท”ตุ้งแช่!”ซักเท่าไร แต่…กับบรรยากาศ
    การดูหนังเรื่องนี้พร้อมกับคนเยอะๆเนี่ย ยอมรับว่าสนุกมากๆ
    ส่วนที่ผมชื่นชมจริงๆของหนังเรื่องนี้คือส่วนของ”ดราม่า”ครับ ทำออกมาได้ดีทีเดียว
    คิดว่า”พี่ก้อง”น่าจะมีโอกาสได้เข้าชิงรางวี่รางวัลในปีนี้นะครับ

  5. สำหรับผมแล้ว ผมไม่แคร์เลยว่ามันมีประเด็นผีสักเท่าไร เนื่องจากก่อนดูก็ได้ฟัง ผกก บอกกล่าวกันก่อนแล้ว ความอยากดูจึงเน้นหนักไปที่ดราม่าครอบครัว และการแสดงที่ไม่เคยเห็นมาก่อนของ ก้อง สหรัถ .. ดังนั้นลัดดาแลนด์จึงตอบสนองความต้องการของผมอย่างเต็มที่เลยทีเดียว

    ตลอดทั้งเรื่องทำให้ผมอินไปกับตัวละคร ด้วยทั้งเรื่องราวที่สัมผัสได้จริงในสังคม การแสดงที่ยอดเยี่ยมของตัวละครหลักทั้ง 4 คน (โดยเฉพาะคุณก้อง ที่หลายครั้งทำให้ผมตกใจและรู้สึกกลัว) การเล่าเรื่อง รวมถึงงานออกแบบศิลป์ที่ขับเน้นความรู้สึกของตัวละครในแต่ละช่วง และรู้สึกเหมือนถูกบีบตลอดเวลาที่มีฉากหนักๆ อย่างฉากระเบิดอารมณ์หรือเวลาร่วมลุ้นระทึกไปกับตัวละครเมื่อเวลาเผชิญหน้ากับความหวาดกลัว

    สำหรับพวกผีต่างๆ ก็ชอบที่ไม่ได้เน้นรูปลักษณ์ที่เละเทะน่ากลัวจนเกินไป กลับใช้แค่เรียบๆ ง่ายๆ สมจริง แต่กลับทำให้รู้สึกน่ากลัวและหลอนได้มากกว่า (เคยฟังจากคนที่เชื่อถือได้ว่าเคยเจอวิญญาณคนเพิ่งตายมาหา ก็เห็นเป็นร่างและอยู่ในมุมมืดบางส่วนที่ไม่น่าดู คล้ายๆ กับครอบครัวเพื่อนบ้านในช่วงที่มาปรากฎตัวแรกๆ)

    ฉากสุดท้ายของหนัง มันเป็นบทสรุปที่สะเทือนใจมาก ทำให้ผมน้ำตาไหลไม่หยุดครับ ต่อเนื่องไปจนถึงขึ้นเครดิตที่มีแต่อักษรบนพื้นดำและดนตรีบรรเลง จนออกจากโรงก็ต้องพยายามกลั้นๆไว้ ถ้าไม่แคร์อะไรผมคงปล่อยโฮแบบบ้าคลั่งไปเลย .. (ผมไม่ได้เป็นพ่อคน และไม่เคยมีประสบการณ์ใกล้เคียงกับตัวละครครับ)

    อาจจะไม่สามารถบรรยายความรู้สึกที่ดีต่อหนังเรื่องนี้ได้ครบถ้วนนัก แต่ที่แน่ๆ คือ ผมรักหนังเรื่องนี้ครับ ให้ 10 เต็มครับ

  6. ต้องขอบอกก่อนว่าผมเป็นคนไม่ชอบดูหนังผีเลยซักนิด ผมดูเพราะมีคนลากผมไปดูด้วย เลยต้องทำใจดู แต่พอได้ดูแล้ว มันน่ากลัวจริงๆครับตกใจตลอด หนังผีไทยคงเป็นหนังผีที่น่ากลัวที่สุดในโลกแล้ว ผมชอบบทนะ บทดูดี ดูไปเรื่อยๆและแฝงความน่าสนใจไปในตัว พี่ก้องเล่นบทนี้ได้ดีเลยทีเดียว สามารถอินกับตัวละครของเค้าไปได้ สิ่งที่ชอบมากที่สุดในเรื่องนี้ คงจะเป็นดนตรีที่หนักหน่วงบีบหัวใจคนดู และเกือบให้ผมต้องหายาพ่นแก้หอบมาพ่นในโรงแล้ว ผมชอบดนตรีครับ ยกนิ้วให้ แต่ข้อเสียคืออย่างที่คุณเจไดบอกไป คือมันตกใจจนเหนื่อยทั้งเรื่องเลย ตกใจเท่าๆกันหมดเลย จนไม่รู้ว่าตอนไหนถึงจุดพีค ถ้าไล่ระดับได้ไปเรื่อยๆ จนผมต้องหายาพ่นแก้หอบมาพ่นในตอนท้ายของเรื่องได้ จะดูดีมากเลยครับ สำหรับหนังเรื่องนี้ ผมให้7.5/10ครับ

  7. เห็นด้วยที่บอกว่าไม่อินกับดราม่าครับเพราะผมไปดูเรื่องนี้เพระาได้ยินว่ามีดราม่าไม่ใช่หนังผีเฉยๆ อาจเป็นเพราะว่าหนังขายผีมากไปเปล่าไม่รู้นะมันเลยปัดดราม่ากระเด็นเลย ซึ่งปกติผมบ่อน้ำตาตื้นอยู่แล้วแต่เรื่องนี้กลับไม่รู้สึกอะไร ถ้าขยายปมปัญหาครอบครัวกว่านี้และให้เรื่องผีรองลงไปคงเจ๋งมาก ๆ

    ส่วนเรื่องผีผมว่ามันซ้อนกันอะ มีแค่บ้านเดียวก้เหลือแหล่แล้วนะผมว่า เน้นไปเลยดีกว่าจะได้บิลด์ขึ้นกว่านี้ เหตุการณ์ที่บิลด์ผีก็ดูจงใจใส่มากไปหน่อยอย่าง ระบบแอร์ หรือ กล้องที่คอแมวอะครับ แต่เค้าทำบรรยากาศออกมาได้กดดันดี น่ากลัวกว่าตัวผีอีก ชอบ ๆ ^..^ (ชอบตอนผีมะขิ่นยืนหัวค้ำเพดานกับน้องกอล์ฟฉีกกระดาษอะ)

    นักแสดงเล่นดีครับ ดูแล้วเชื่อครับ

    ให้ 7/10 ละกันครับ

  8. ผมดูๆไป ผมรู้สึกว่าตัวบทแกว่งมาก
    ตกลงจะดราม่าหรือผี แต่ตอนจบก็ได้ตอบแล้วว่าดราม่า เป็นเส้นหลัก
    แต่ ช่วงกลางขาดความดราม่าไปซะงั้นเพราะ ห่วงผีไม่หลอน
    โดยเอาตัว เคมีดราม่าสำคัญ คือลูกสาว หนีไปนอนหอเพื่อน
    ซึ้งตัวพอเองก็ไม่ได้รับความกดดัน เพิ่ม มีแค่จากแม่ผ่ายเดียว
    ตอนแรกที่ดู ตัวอย่างอยากดูมากครับ เพราะรู้สึกว่า ตัวก้อง เองจะรับบทดราม่าหนัก
    แต่พอไปดูเอง ก็ได้แค่ยอมรับว่า จังหวะตัดต่อ และ จังหวะผู้กำกับเก่งมากแค่นั้น
    และแค่จบ ด้วยประโยคสวยๆ ก็เหมือนจะทำให้คนลืมหมด ตอนออกจากโรง
    แต่ผมไม่ลืม ว่า ผีพม่ามันหายไปตั้งแต่ครึ่งเรื่อง โดยมี อีเด็กก๊อล์ฟ สุดหลอน หน้าแหกมาแทนทีแค่นั้น
    ผมดูวันเดียวกะ THOR แต่ 7/10 เท่า THOR แต่ว่าไป ผมว่า THOR เองดีกว่ามาก!!

  9. ผมคิดว่า “ผีตุ้งแช่” ที่เยอะเกินไปเป็นส่วนเกินของหนังเรื่องนี้ครับ มันเยอะจนเกินพอดีไปหน่อย ถ้าหนังคงเพียงความหลอนแบบตอนที่น้องนัทวิ่งไปทั่วบ้านแล้วตะโกนบอกพี่กอล์ฟว่าไม่เล่นแล้ว แล้วให้ผีโผล่มาแบบพอดี หนังเรื่องนี้คงจะดีเยี่ยมกว่านี้มากครับ

    ผมให้ 7/10 ครับ

  10. ส่วนตัวรู้สึกผิดหวังครับ… ถ้าเป็น ผกก. คนเดียวกัน ผมว่า เรื่องโปรแกรมหน้า…วิญญาณอาฆาต ดีกว่าทั้งฉาก หลอก หลอน สะดุ้ง สยอง ภาพติดตา
    ส่วนเรื่องนี้ ถ้าคุณคิดว่าจะไปดูหนังผี(จริงๆ) ผิดหวังแน่ครับ เพราะเอาเข้าจริง ผีเป็นแค่ตัวประกอบ แกนหลักเป็นหนังสะท้อนปัญหาชีวิตครอบครัวมากกว่า

    ถ้าให้คะแนนในแง่ หนังผี ผมให้ 5 / 10 ครับ
    ถ้าให้คะแนนในแง่ หนังสะท้อนปัญหาชีวิตครอบครัว ผมให้ 8 / 10 ครับ

Leave a Reply to นฤชาญCancel reply