JEDIYUTH’s Review: The Adjustment Bureau

ถ้ามองจากหน้าหนัง The Adjustment Bureau ดูคล้ายหนังไซไฟเขย่าขวัญเกี่ยวกับองค์กรลึกลับที่แอบแฝงทำอะไรบางอย่างกับมนุษย์ แต่ในแกนแล้วเป็นหนังโรแมนติก ว่าด้วยเรื่องราวของชายหนุ่มที่ฝ่าฟันอุปสรรค์เพื่อให้ได้อยู่กับคนที่เขารัก ซึ่งอุปสรรคในที่นี้ก็คือ “ชะตาลิขิต” ครับ

หนังเป็นผลงานกำกับครั้งแรกของจอร์จ นอลฟี มือเขียนบทจาก Ocean’s Twelve และ Bourne Ultimatum ซึ่งแม้ว่าวิธีเล่าเรื่องจะไม่โดดเด่นหรือมีความพิเศษ มีความลักลั่นในตัวบท แต่ก็มีจังหวะในการบอกเล่าได้ค่อนข้างดี ชวนซึ้ง และมีการแสดงอันน่าเชื่อและเข้าขากันอย่างดีของแมต เดมอน กับ เอมิลี่ บลันท์ มาช่วยเสริมความน่าติดตามให้แก่หนังครับ

The Adjustment Bureau ดัดแปลงจากเรื่องสั้นแนวไซไฟของฟิลิป เค. ดิ๊ค นักเขียนที่ฮอลลีวู้ดนิยมเอามาผลงานมาดัดแปลงเป็นหนังบ่อยๆ เป็นต้นว่า Blade Runner, Minority Report, Total Recall และ A Scanner Darkly เปิดเรื่องมาโดยพาเราไปรู้จักกับเดวิด นอริส (เดมอน) นักการเมืองหนุ่มไฟแรงและกำลังไปโลดในการแข่งขันชิงตำแหน่งวุฒิสมาชิกของนิวยอร์ก ภายใต้การควบคุมดูแลขององค์กรลับที่คอยช่วยให้เขาก้าวหน้า ตามแผนของชะตาลิขิต แต่ความหุนหันพลันแล่นของเดวิดก็ได้ทำให้อาชีพทางการเมืองที่กำลังรุ่งของเขาต้องสะดุด องค์กรลับที่ว่านี้จึงต้องเข้ามา “ปรับแต่ง” เพื่อให้เดวิดได้เดินกลับไปตามเส้นทางที่ชะตาได้ลิขิตไว้อีกครั้ง

ในระหว่างที่ชะตาสะดุด เดวิดได้พบกับเอลิส (บลันท์) สาวนักเต้นบัลเล่ต์ที่เปรียว ไม่มีฟอร์ม และแสดงออกตรงกับใจ ผู้มาเป็นแรงบันดาลใจให้เดวิดเลิกที่จะสร้างภาพให้ตัวเอง และด้วย “ความบังเอิญ” อีกครั้งทำให้ทั้งคู่พบกันอีกบนรถบัสจนทำให้เดวิดรู้สึกพิเศษต่อเธอมากขึ้น

ความบังเอิญที่ว่านี้ บางครั้งเกิดจากการทำงานผิดพลาดของคนองค์กรลับ บางครั้งก็เป็นสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุมของชะตา เพราะชะตาลิขิตเอาไว้แต่เฉพาะแผนโดยกว้างๆ เท่านั้น ซึ่งไม่ใช่แค่สาเหตุที่ทำให้เดวิดได้พบเอลิสอย่างผิดแผน แต่ยังทำให้เดวิดได้ล่วงรู้ความลับขององค์กรนี้ด้วย ที่หลายครั้งแอบใส่ความคิดเข้าไปในหัวของเพื่อนร่วมงานของเดวิดแบบหนัง Inception เพื่อให้เดวิดเดินไปตามแผนที่พวกเขากำหนด

ริชาร์ดสัน (จอห์น สแลทเตอรี) เป็นหัวหน้าหน่วยขององค์กรลับที่เขามาดูแลคดีของเดวิด ขู่ไม่ให้เดวิดเปิดเผยความลับขององค์กร มิเช่นนั้นจะทำลายความทรงจำของเขาทั้งหมด และสั่งห้ามเดวิดพบเอลิสอีกเพราะชะตาไม่ได้ลิขิตให้พวกเขามาคู่กัน ซึ่งองค์กรจะทำทุกวิธีเพื่อขัดขวางไม่ให้ได้พบกันอีก

เดวิดไม่เชื่อเรื่องชะตาลิขิต และไม่เชื่อว่าเขาจะรักกับเอลิสไม่ได้ เพราะมิเช่นนั้น เขาคงไม่รู้สึกพิเศษต่อเธอมากขนาดนี้ เดวิดนั่งรถบัสคันเดิม เที่ยวเดิมทุกเช้าเป็นเวลา 3 ปี จนในที่สุดความบังเอิญก็เป็นใจอีกครั้งให้เขาได้พบเอลิส และครั้งนี้เขาก็ทำทุกวิธีไม่ให้เอลิสหลุดไปจากมือไม่ว่าองค์กรลับจะใช้วิธีขัดขวางยังไง โดยมีแฮรี่ (แอนโธนี แม็คกี้) คนองค์กรที่สงสารเขาแอบให้คำแนะนำอยู่ลับๆ

ต่อมา เราก็ได้รู้ความจริงว่าทำไมเดวิดบังเอิญได้พบเอลีสอีก แม้องค์กรลับจะทำหน้าที่เข้มงวดแล้ว นั่นก็เพราะว่าทั้งคู่เป็นเนื้อคู่กัน เป็นคู่รักกันมาจากชาติปางก่อน แต่ชะตาได้มากำหนดแผนชีวิตของพวกเขาใหม่ในชาตินี้ ริชาร์ดสันจึงพบว่าอยู่เหนืออำนาจที่เขาจะขัดขวางได้ องค์กรจึงส่งธอมป์สัน (เทอเรนซ์ สแตมป์) ขุนค้อนจอมโหดเข้ามาทำลายความรักของทั้งคู่ ด้วยการขู่จะทำลายอนาคตอาชีพนักเต้นของเอลิส และให้เดวิดต้องเลือกระหว่างได้อยู่กับเอลิส แต่อาชีพของเธอต้องตกอับ กลับปล่อยเอลิสไปแต่งงานกับคนอื่นเพื่อให้อาชีพของเธอรุ่งโรจน์

โดยรวม หนังต้องการจะเน้นประเด็นที่ว่า “ลิขิตฟ้า หรือจะสู้มานะคน” หรือ การเอาชนะชะตาลิขิต แต่หนังก็ยังดูเหมือนขาดความคมชัดในประเด็นที่ต้องการนำเสนอครับ เพราะมีการใส่เข้ามาในเนื้อเรื่องว่าเดวิดกับเอลีสเคยเป็นเนื้อคู่กัน แต่มาถูกจับแยกกันในชาตินี้ มันทำให้อดคิดไม่ได้ว่าฝ่ายไหนกันแน่ที่พยายามจะฝืนชะตา และยิ่งใส่ประเด็นเรื่องความบังเอิญเข้าไป ยิ่งเหมือนจะบอกเราว่า “คู่กันแล้วไม่แคล้วกัน” มากกว่า ทำให้เกิดความลักลั่นในประเด็นที่ต้องการจะเสนอ

อีกส่วนที่จะเสริมให้หนังเรื่องนี้น่าสนใจยิ่งขึ้นได้ แต่ยังขาดอยู่ก็คือความโดดเด่นด้านเทคนิคการเล่าเรื่อง เพราะแม้หนังจะสร้างบรรยากาศของโลกอันพิศวงแบบหนังไซไฟอย่าง Inception หรือ The Matrix ได้ดีในระดับหนึ่งก็ตาม แต่ก็ยังขาดเทคนิคการเล่าเรื่องที่น่าตื่นเต้นและแปลกใหม่แบบทั้งสองเรื่องนั้น หนังจะน่าสนใจมากขึ้นไปอีกหากฉากที่ต้องลุ้นระทึกหรือมีความเหนือธรรมชาติใส่เทคนิคที่มีจินตนาการแหวกแนวลงไป

อย่างไรก็ดี ผู้กำกับก็ยังทำให้เราอยากติดตามไปได้จนจบว่าเรื่องราวจะลงเอยแบบไหนครับ แม้เราอาจจะพอเดาได้เลาๆ ก็ตาม ทั้งนี้น่าจะมาจากการที่ผู้กำกับนอลฟีเลือกให้ตัวละครเป็นตัวขับเคลื่อนเรื่องราว เน้นไปที่การฝ่าฟันเพื่อความรักที่ดูโรแมนติกแทนที่จะไปเน้นสร้างความเขย่าขวัญ ผู้กำกับทำให้เราเข้าใจเดวิดได้เมื่อรู้สึกอึดอัดที่ชีวิตถูกขีดเส้นไว้ ไม่อาจจะทำสิ่งที่หัวใจเรียกร้อง รู้สึกสงสารเดวิดเมื่อถูกขัดขวางความรัก และรู้สึกอยากให้เดวิดเอาชนะอุปสรรคได้สำเร็จ

การให้ตัวละครเป็นผู้ขับเคลื่อนนั้นจะไม่สำเร็จได้เลย หากไม่ได้นักแสดงที่เก่งมาถ่ายทอดบทบาท ความสามารถทางการของเดมอนและบลันท์ช่วยเสริมให้เรื่องราวน่าติดตามไปได้ตลอด และเมื่อเล่นคู่กันก็ดูกลมกลืนและเข้าขากันอย่างมาก

นักแสดงสมทบก็มีส่วนช่วยเช่นกัน โดยเฉพาะบทคนองกรค์ลับที่ไร้หัวใจของสแตมป์ที่เล่นน้อย แต่ทำให้เรารู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิต ซึ่งเมื่อยิ่งแสดงความโหดร้ายออกมาก็ยิ่งทำให้เราเห็นใจเดวิด

7.5/10

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง
The Adjustment Bureau
ชื่อไทย พลิกชะตาฝ่าองค์กรนรก
ผู้กำกับ/เขียนบท จอร์จ นอลฟี่
นำแสดง แม็ตต์ เดม่อน, เอมิลี่ บลันท์, แอนโธนี่ แม็คกี้, จอห์น สแล็ตเทอรี่, และ เทอเรนซ์ สแตมป์
กำหนดฉายในไทย 3 มีนาคม 2554
บริษัทจัดจำหน่าย ยูไอพี ประเทศไทย
เว็บไซต์ทางการ http://www.theadjustmentbureau.com

Leave a Reply